วิธีรีไฟแนนซ์บ้านแบบฉบับมือใหม่ อะไรที่ต้องรู้


2019-07-19 11:03

จำนวนครั้งที่เปิดอ่าน : 120

ในช่วงแรกของการกู้ซื้อบ้าน ผู้กู้จะได้รับโปรโมชั่นและเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยพิเศษจากแต่ละธนาคารเพื่อจูงใจให้มาใช้บริการ แต่พอเข้าสู่ปีที่ 4 ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยวงเงินกู้เป็นเรทปกติ ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้านสูงขึ้น หรือเงินต้นที่ถูกหักในแต่ละเดือนจะน้อยกว่าดอกเบี้ยอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อเข้าปีที่ 4 ของการมีบ้าน หลายๆ คนอาจจะต้องเจอเรื่องของค่าใช้จ่ายในการดูแลบ้านที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการต่อเติม ซ่อมแซมบ้าน ทำให้บ้านอาจกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ที่คุณคาดไม่ถึง

     การรีไฟแนนซ์จึงเป็นทางเลือกอันดับแรกที่หลายคนเลือก เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนบ้าน เสมือนการยื่นกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อไปชำระสินเชื่อก้อนเดิมที่เคยทำสัญญาไว้กับธนาคาร โดยการยื่นรีไฟแนนซ์สถาบันการเงินใหม่ ซึ่งจะทำให้ได้รับโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราปกติของทางธนาคาร ไม่ต่างจากการยื่นกู้ในครั้งแรก และยังสามารถเพิ่มวงเงินสำหรับซ่อมแซมหรือต่อเติมบ้านได้อีกด้วย แต่การเลือกแคมเปญของแต่ละธนาคาร เพื่อให้ได้โปรโมชั่นที่ถูกกว่า เจ้าของบ้านต้องลองพิจารณาให้รอบด้าน ซึ่งต้องเริ่มอย่างไรนั้น บ้านและสวนมีคำแนะนำมาฝากกัน

ตรวจสอบเงื่อนไขในการรีไฟแนนซ์

     เพราะการรีไฟแนนซ์เป็นเสมือนการเริ่มต้นกู้เงินก้อนใหม่ เพื่อมาจ่ายหนี้ก้อนเดิม สิ่งแรกที่ต้องศึกษาให้รู้แน่ชัดคือเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละสถาบันการเงิน เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่จ่ายอยู่ ณ ปัจจุบัน โดยควรคำนวณจากอัตราดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาในการผ่อนชำระ ไม่ใช่แค่พิจารณาแค่ช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนบ้านเท่านั้น

รีไฟแนนซ์ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมา
     นอกจากแรงจูงใจจากโปรโมชั่นอันร้อนแรงแล้ว สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ไว้คือค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือค่าธรรมเนียม ที่จะต้องจ่ายเพิ่มในขั้นตอนการยื่นกู้ รวมแล้วอยู่ที่ประมาณ 2-3 % ของวงเงินกู้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าธรรมเนียมในการจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ ค่าประเมินราคาหลักประกันใหม่ ค่าธรรมเนียมการจดจำนองที่ดิน ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น และที่สำคัญคือค่าดอกเบี้ย MRR ยิ่งมีค่าลบ มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดี และอีกประเด็นคือให้ตรวจสอบค่าไถ่ถอนสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ยื่นกู้ ด้วยว่าสามารถรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ปีที่เท่าไหร่ เพราะถ้าผิดเงื่อนไขจะต้องจ่ายค่าปรับการไถ่ถอนก่อนกำหนดด้วย ก่อนตัดสินใจเลือกรีไฟแนนซ์จึงต้องพิจารณาเงื่อนไขข้อนี้ประกอบด้วย

     หากคำนวณแล้วเห็นว่า ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่า สามารถลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน และยังเพิ่มวงเงินสินเชื่อได้ ด้วยระยะเวลาการผ่อนที่เหมาะสมกว่า และอัตราการผ่อนต่องวดเป็นที่รับได้ ให้พิจารณาเลือกสถาบันการเงินนั้น